บริษัท พาโตเคมีอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)

ความรับผิดชอบต่อสังคม

(Social responsibility)

รายงานแห่งความยั่งยืน
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

               ประเทศไทยที่ถือเป็นประเทศเกษตรกรรม แม้ว่าภาคการเกษตรจะไม่ใช่ภาคส่วนที่ทำรายได้หลักเข้าประเทศ หากแต่ภาคการเกษตรก็ถือได้ว่ามีความสำคัญในการเลี้ยงปากท้องของคนในประเทศ รวมถึงยังสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออก จึงนับได้ว่าการเกษตรของไทยมีความสำคัญมาก ที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกพยายามในการเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตรของตนเพื่อเพิ่มผลผลิตในประเทศ แม้กระทั่งประเทศที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ ก็มีความพยายามในการเข้าเช่าพื้นที่เพาะปลูกในประเทศอื่น พื้นที่การเกษตรจึงถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเกษตรของไทยได้มีการกระจายการผลิตไปสู่พืชเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้นหลายชนิด เพื่อสนองความต้องการของตลาดโลกและตลาดภายใน และได้กระจายการผลิตจากการปลูกพืชหลักเพียง 2 – 3 ชนิด มาเป็นการปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าเพิ่มนอกจากข้าว เช่น มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย ข้าวโพด ยาสูบ ถั่วลิสง และ ถั่วเหลือง

               สิ่งที่เกษตรกรไทยต้องคำนึงถึงคือ “ทำอย่างไรที่จะสามารถผลิตพืชผลให้ได้ในปริมาณที่ต้องการโดยไม่ต้องขยายพื้นที่ปลูก” การดูแลปกป้องพืชพันธุ์ที่ปลูกจากแมลง ศัตรูพืช วัชพืช และโรคพืชต่างๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูงจึงเป็นสิ่งที่เกษตรกรพึงตระหนัก บริษัท พาโตเคมี อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์เกษตรกรไทย เพื่อคุณภาพ และปริมาณผลผลิตต่อไร่ โดยใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช วัชพืช และโรคพืชที่มีคุณภาพ ขณะที่หลายๆ บริษัทโดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ เน้นการนำเข้าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ในทางกลับกันบริษัทพาโตเคมี อุตสาหกรรมจำกัด (มหาชน) ซึ่งนำเข้าสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและการนำเข้าสารTechnical Grade แต่บริษัทมีนโยบายเน้นการนำเข้าสาร Technical Grade มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เนื่องจากเห็นว่าการนำ Technical Grade เข้ามาผสมปรุงแต่ง (Formulate) เองนอกจากเป็นการลดต้นทุนเพราะสารประกอบอื่นๆ รวมถึงวัสดุบรรจุสามารถหาซื้อได้ในประเทศเป็นการช่วยกระจายรายได้ในประเทศแล้ว ที่สำคัญบริษัทยังสามารถควบคุมคุณภาพได้ดีกว่าการนำเข้าแบบสำเร็จรูป ซึ่งเป็นผลดีกลับสู่เกษตรกรเนื่องจากได้ใช้สินค้าราคาที่ย่อมเยาว์กว่า ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้มาก ผลการดำเนินงานกว่า 30 ปี จึงเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจจากเกษตรกรไทยมาจนทุกวันนี้

               อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรและสามารถรักษาสมดุลต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจและจัดการอบรมเกษตรกร ถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกวิธีเพื่อลดปริมาณสารพิษตกค้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อตัวเกษตรกรเองและผู้บริโภค และที่สำคัญคือทรัพยากรต่างๆ ที่นำมาใช้เป็นปัจจัยการผลิต

นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม

             บริษัทคำนึงถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และเพื่อส่งเสริมให้การปฏิบัติงานของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท เป็นไปในทิศทางเดียวกันในเรื่อง ดังกล่าว บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วนดังนี้

  1. ปลุกจิตสำนึกของพนักงานทุกคนให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม และส่งเสริมการบริหารผ่านบรรษัทภิบาลและการควบคุมภายใน สร้างคุณค่าขององค์กร โดยมุ่งเน้นการทำกิจกรรมที่ถูกต้อง ซื่อตรง
  2. คำนึงถึงการดำรงอยู่อย่างมีความหมายต่อสังคม และให้ความสำคัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อันได้แก่พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า คู่แข่งทางการค้า หน่วยงานราชการ สิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างสมดุล และจัดลำดับความสำคัญอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความพึงพอใจร่วมกันนำมาซึ่งความยั่งยืน

การจัดทำรายงานความรับผิดชอบต่อสังคม

           บริษัทจัดทำรายงานความรับผิดชอบของสังคมให้สอดคล้องกับแนวทางความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และใช้กรอบการทำรายงานของเข็มทิศธุรกิจเพื่อสังคมเป็นหลัก จัดทำรายงานรวมเล่มอยู่กับรายงานประจำปีของบริษัทโดยเน้น ทำในสิ่งที่เขียนและเขียนในสิ่งที่ทำ ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “ ผลิตสินค้าดีมีคุณภาพราคายุติธรรมเพื่อเกษตรกรไทย ใส่ใจความมั่นคงของผลประกอบการ โดยไม่ทิ้งงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” จึงได้กำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจตามหลักการหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมโดยดำเนินการตามหลักการ 8 ข้อดังนี้

(1) การประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรม
           คณะกรรมการมีนนโยบายที่จะปฏิบัติต่อคู่ค้าด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต จึงมีหลักปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • ส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรี หลีกเลี่ยงการเล่นพรรคเล่นพวก
  • ไม่สนับสนุนการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ
  • จัดให้มีระบบการป้องกันการจ่ายสินบนและทุจริต มีกระบวนการแก้ปัญหาหากเกิดขึ้นและมีขบวนการตรวจสอบและมีบทลงโทษ
  • รณรงค์ให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน เห็นความสำคัญของการต่อต้านการทุจริต
  • บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นกลางทางการเมือง ไม่เข้าไปมีส่วนร่วม ฝักใฝ่ ไม่นำเงินทุนของบริษัทไปสนับนุนพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยคำนึงว่าสิทธิการเมืองเป็นสิทธิเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท

(2) การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
           บริษัทเห็นว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยเป็นที่รับรู้กันไปทั่วโลก และไทยถูกจัดอันดับอยู่ประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นสูงในอันดับต้นๆ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และมาตรฐานความเป็นอยู่ของผู้คนโดยส่วนรวม เช่น

  • ทำให้เกิดการคดโกงทรัพยากรของส่วนรวมไปเป็นของตนเองอย่างผิดกฎหมายและ จริยธรรม
  • ทำให้เกิดการบิดเบือนการใช้ทรัพยากร ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด เช่น การก่อสร้างถนนหรือถาวรวัตถุต่างๆ มีคุณภาพต่ำ อายุใช้งานน้อยกว่าที่ควรเป็น หรือการได้รับบริการคุณภาพต่ำ
  • ทำให้เกิดการผูกขาดโดยนักธุรกิจการเมืองขนาดใหญ่ ไม่ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความอ่อนแอ ความด้อยพัฒนาล้าหลังขององค์กร

           บริษัทจึงมีนโยบายการต่อต้านปัญหาทุจริตและป้องกันการมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นผู้ถือหุ้นสามารถศึกษานโยบาย และการป้องกันได้ภายใต้หัวข้อดังกล่าวในข้อ 10.5 ส่วนท้ายรายงาน

(3) การเคารพสิทธิมนุษยชน
           บริษัทมีนโยบายสนับสนุนและเคารพในการปกป้องสิทธิมนุษยชน เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่สนับสนุนการบังคับใช้แรงงาน และต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก โดยส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลและหลักจริยธรรม เพื่อความสงบสุขของสังคม

           การคัดเลือกพนักงานมิได้รับการตัดสินบนพื้นฐานของลักษณะเฉพาะส่วนบุคคลเช่น เชื้อชาติ เพศ ศาสนา แต่เป็นความสามารถที่แท้จริงและคุณความดี

(4) การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม
           บริษัทให้ความคุ้มครองสภาพการทำงานของพนักงานโดยกำหนดเงื่อนไขการจ้างที่เป็นธรรมโดยมีหลักการดังต่อไปนี้

  • เน้นความปลอดภัยและสุขอนามัย ดูแลให้มีอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างเหมาะสม
  • มีการฝึกฝนทักษะและเพิ่มพูนศักยภาพของพนักงานสม่ำเสมอ เปิดโอกาสให้มีการเรียนรู้และเลื่อนตำแหน่ง
  • ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมแก่งานและฐานะ
  • มีกระบวนการร้องเรียนอย่างเหมาะสม
  • จัดให้มีสวัสดิการแก่พนักงานตามสมควรและเหมาะสม
  • สร้างดุลยภาพในการใช้ชีวิตระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
  • ไม่กลั่นแกล้ง หรือลงโทษอย่างวินัย พนักงานที่มีการรายงานอย่างสุจริตต่อผู้บริหาร
  • มีการหารือ/ความร่วมมือระหว่างนายจ้างกับพนักงาน เคารพสิทธิใหนการแสดงความคิดเห็นของพนักงาน
  • ปลูกฝังให้มีคุณธรรม จริยธรรม
  • มีการจ้างงานผู้ที่มีความบกพร่องทางกายภาพเพื่อช่วยเหลือสังคม

(5) ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ตามหลักการดังนี้

  • ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นที่ไว้วางใจต่อเกษตรกรมากว่า 30 ปี สินค้าปลอดภัยต่อผู้ใช้เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำตามฉลาก
  • ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอแก่ผู้บริโภค ไม่โฆษณาเกินจริง ฉลากมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ใช้ภาษาง่ายต่อการทำความเข้าใจ บอกวิธีการใช้ที่ปลอดภัย ข้อความการดูแลผู้ป่วยหากได้รับสารพิษ และการกำจัดซากภาชนะอย่างถูกต้อง
  • กระตุ้นให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตเห็นความสำคัญของการใช้สินค้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ สินค้าให้เกิดประโยชน์ ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสารพิษตกค้างต่ำ

(6) การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

  • ใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตที่มีมาตรฐาน โดยคำนึงถึงการลดปริมาณขยะและมีการบำบัดมลพิษก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ
  • ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรการประหยัดพลังงาน และมีการนำทรัพยกรกลับมาใช้ใหม่
  • พัฒนาสินค้าที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  • จัดเตรียมแผนฉุกเฉินเพื่อจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

(7) การร่วมพัฒนาชุมชนหรือสังคม

  • ดำเนินกิจกรรมอาสาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนและสังคม
  • รักษาสภาพแวดล้อมในชุมชนให้น่าอยู่
  • สนับสนุนให้ชุมชนและสังคมมีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นสถานศึกษา ผ่านโครงการค่ายอาสาพัฒนาของมหาลัยต่างๆ

(8) การมีนวัตกรรมและเผยแพร่นวัตกรรมซึ่งได้ดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้เสีย
           บริษัทมีนโยบายที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีสารตกค้างในสภาพแวดล้อมต่ำ ไม่มีพิษภัยต่อเกษตรกรโดยเสมอมา โดยขั้นตอนการขึ้นทะเบียนวัตถุมีพิษเพื่อใช้ในการเกษตร บริษัทจะต้องเตรียมข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ยื่นต่อกรมวิชาการเกษตร ระหว่างนั้นจะต้องทำการทดสอบหาสารพิษตกค้างตามหลักการวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งทางบริษัทได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปทดสอบในห้องทดลองของประเทศอังกฤษเพื่อความมั่นใจในผลการทดลอง และยื่นผลทดลองให้กับกรมวิชาการเกษตร จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะทำการทดลองผลิตภัณฑ์ในพืชแต่ละชนิดถึงประสิทธิภาพการใช้งาน ปริมาณการใช้ที่ถูกต้องและได้ผลดีกับพืชผลในประเทศไทย ขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี

รายงานความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อความยั่งยืน

*นโยบายการเก็บข้อมูลส่วนตัว* บริษัทมิได้ใช้ Cookie บนเว็ปไซต์นี้ ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทจากเว็บไซต์นี้ภายใต้หัวข้อ “นโยบายความเป็นส่วนตัว